วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

บทความที่ 14 ทำธุรกิจเครือข่าย ควรโฟกัส อะไร?



นี่คือสิ่งที่นักธุรกิจเครือข่าย 99% ที่ล้มเหลวในทุกวันนี้ไม่เข้าใจ หรือ บางคนรู้แต่ไม่ใส่ใจ นั่นคือคำว่า "โมเมนตัม"
โมเมนตัม มันคือ อะไร?
โมเมนตัม สำคัญ อย่างไร?

" ทุกธุรกิจเครือข่าย ถ้าคุณไม่มีโมเมนตัม คุณรอวัน เจ๊ง!! ได้เลยครับ ผมรับประกัน 99.99% "
คุณเห็นที่โยกนำบาดาลในภาพไหมครับ สมมติว่าคุณโยกน้ำครั้งที่ 1-2-3-5-10-20 นำก็ยังไม่ไหลแต่พอคุณโยกครั้งที่ 21 น้ำไหล 22 ก็ไหล 23-24-25 ก็ไหลตลอดเลย การที่น้ำไหลเขาเรียกว่าเกิดโมเมนตัม คุณจะใส่แรงใส่โน่นใส่นี่เข้าไปก็ได้ผลประโยชน์ออกมาทุกที
แต่การโยกน้ำครั้งที่ 1-20 โดยที่ไม่มีน้ำไหล เขาเรียกว่า การสร้างโมเมนตัม หมายถึงการที่คุณทำงานใส่แรง ใส่โน่นใส่นี่เข้าไปโดยที่ไม่ได้ผลประโยชน์อะไรออกมาเลย แต่คุณต้องสม่ำเสมอเพราะคุณรู้ว่าถึงจุดหนึ่ง เมื่อเกิดโมเมนตัมแล้วผลประโยชน์มันจะเริ่มมา
ธุรกิจก็เหมือนกันครับ ช่วงแรกที่ไม่เกิดโมเมนตัม คุณต้องป้อนน้ำป้อนข้าวให้ธุรกิจมันเกิดโมเมนตัม เหมือนเด็กที่เกิดใหม่ ถ้าคุณไม่ป้อนน้ำป้อนนมป้อนข้าวเด็กก็คงไม่โต คุณจะหวังแต่ว่าเด็กที่เพิ่งคลอดเมื่อไหร่จะได้เงินจากเด็กเอามาให้สักที ตราบใดก็ตามที่เด็กยังไม่โตไม่มีทางได้หรอกครับ
จุดที่เป็นจุดอันตรายของคนทำธุรกิจเครือข่ายก็คือ ทำงานสร้างโมเมนตัมได้สักพัก แล้วยังไม่เห็นผลอะไร เหมือนคนโยกน้ำไปแค่ 4-5 ครั้งแล้วไม่ได้น้ำไปใช้ก็ล้มเลิกกลางคัน สุดท้ายก็หนีไม่พ้นคำว่าเจ๊ง...อย่างเดียว แต่ผมก็เห็นใจเพราะบางคนการสร้างโมเมนตัมมันแสนยากเข็ญมาก...เพราะอะไรอ่านต่อไป
ถ้า..โมเมนตัมเกิดหมายความว่า กำไร ผลตอบแทน เงินคืน จุดคุ้มทุนมันจะเริ่มมา คุณจะเริ่มเห็นลู่ทางสำเร็จในธุรกิจ ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจเครือข่ายบริษัทไหน ค่ายไหน คุณก็มีโอกาสสำเร็จสูง ถ้าคุณสร้างโมเมนตัมได้ แต่ถ้าคุณไม่มีโมเมนตัม โอกาสสำเร็จในธุรกิจเครือข่ายเหมือนการถูกล๊อตเตอรี่ มันยากมาก และนี่คือเหตุผลที่ทำไมนักธุรกิจ 99% ถึงล้มเหลว เพราะไม่ยอมโฟกัส โมเมนตัม
สิ่งที่นักการตลาดเครือข่ายส่วนใหญ่เขาโฟกัสกันคืออะไร?-เอาล่ะ...ต้องรักษายอดอีกแล้ว-เอาล่ะ...ต้องเสียเงินเพิ่ม-เอาล่ะ...ต้องเสียโน่นจ่ายนี่
ไม่มีใครพูดเลยว่า "ถ้าคุณอยากสำเร็จคุณต้องโฟกัสโมเมนตัมนะ "
รู้ไหมครับ โมเมนตัม มันแล้วแต่ละวิธีในการทำธุรกิจเครือข่าย ส่วนใหญ่ในธุรกิจเครือข่ายการสร้างโมเมนตัมก็ยากแสนยาก เช่น- คุณต้องไปนำเสนอสินค้าให้ได้วันละ 10 คนอย่างน้อย สัก 3 เดือน คุณจะเริ่มเกิดโมเมนตัม- คุณต้องไปแจกใบปลิวให้ได้วันละ 3000 ใบต่อเนื่องสัก 3 เดือน จะเริ่มเกิดโมเมนตัม- คุณจะต้องแจกซีดีให้กับคนสนใจวันละ 20 แผ่นต่อเนื่องสัก 3 เดือน จะเริ่มเกิดโมเมนตัม- อื่นๆ
ดังนั้น ถ้าคุณจะเลือกทำธุรกิจเครือข่าย ถามคนแนะนำเลยว่า การสร้างโมเมนตัมสำหรับธุรกิจของคุณต้องทำอย่างไร ถ้าคนที่แนะนำไม่รู้ ผมแนะนำว่า อย่าไปสมัครกับเขาเด็ดขาด คุณเข้าไปร่วม อย่างเดียวคือ เจ๊งแน่ๆ

สนใจข้อมูลเพิ่มเติม การทำธุรกิจทางออนไลน์ เพื่อคลายปมความล้มเหลวในตลาดเครือข่ายด้วยการตลาด แบบ Attraction Marketing แบบเข้มข้นผ่านเน็ต ฟรี ที่http://www.perfect4life.agarshop.com หรือ แจ้งชื่อ อีเมล์ เบอร์โทรศัพท์ และบอกว่าท่านขออบรมเพิ่มเติมการทำธุรกิจออนไลน์มาที่E-mail : wirat.we@gmail.com ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายในการอบรมทางอินเตอร์เน็ต

วิรัตน์ วงศ์เข็มทรัพย์

0860031663

Business School's Online

บทความที่ 13 Attraction Marketing การตลาดเครือข่ายที่ไม่แคร์ ชื่อบริษัท


บางคนเห็นหัวข้อนี้อาจจะแย้งว่า ไม่แคร์บริษัทแล้วจะทำการตลาดไปได้ยังไง ยังงี้มันจะสำเร็จไหม มาดูกันนะครับเอาง่ายๆเลยนะครับ ถ้าได้อ่านบทความมาตั้งแต่บทความที่ 1 ถึง 12จะเห็นเลยว่า การตลาดแบบดึงดูด Attractin Marketing จะเป็นการโปรโมตความเป็นมืออาชีพของเราให้คนที่สนใจธุรกิจเห็น และเขาจะเข้าร่วมเมื่อเห็นว่าเราพาเขาสำเร็จแน่ๆ เห็นไหมครับว่าเขาไม่ได้เลือกที่บริษัทแล้วแต่เขาเลือกที่ตัวเรามองดูการทำเครือข่ายทุกวันนี้สิครับ พยายามโปรโมตบริษัทอย่างเดียว คนก็จะรู้จักแต่ชื่อบริษัท ใครได้ละครับ ก็บริษัทไงครับได้รับการกล่าวขาน ถามหน่อยมีกี่คนที่ยังไม่เคยทำบริษัทนั้นๆ รู้จักคนมีรายได้หลักล้านในบริษัทนั้นแล้ว หายากมาก บางคนทำเครือข่ายบริษัทที่มีคนรายได้ 7 หลักยังไม่รู้จักชื่อที่ร่ำรวยกับบริษัทนั้นเลย ยิ่งคนที่มีรายได้6หลักลงมาแทบบอกได้เลยว่า ไม่รู้จัก มันคือความล้มเหลวของการทำเครือข่ายสิ้นเชิง เพราะอะไรค่อยมาดูกันฟังนะครับ ถ้าคุณไม่เข้าใจ ผมอยากให้ลองมองบริษัทเครือข่ายหรือบริษัทโดยทั่วไป ถ้าเขามีกำไรเขาก็ทำธุรกิจต่อไปได้ แต่ถ้าอยู่มาวันหนึ่งเกิดขาดทุน หรือเจอมรสุมทางธุรกิจอะไรก็ตาม และเจ้าของมองเห็นว่า การเดินต่อมีแต่เสียกับเสีย มันมีโอกาสที่จะปิดตัวไหมครับ ขนาดบริษัทรถยักษ์ใหญ่ในอเมริกายังเข้าสู่ขั้นตอนการล้มละลายมาแล้วนะครับ ประสาอะไรกับบริษัทเครือข่ายแล้วเกิดอะไรขึ้นกับบริษัทเครือข่ายที่กำลังจะล้ม อาจจะไม่ใช่เพราะผู้จำหน่าย แต่อาจจะมาหลายปัจจัย เช่นการฟ้องร้อง การดำเนินนโยบายผิดพลาดขาดทุนมหาศาล ภาวะการตลาดฝืดเคือง ภัยพิบัติที่เกิดกับบริษัท หมายความว่าอย่างไร ถ้าคุณไม่ได้แบรนด์ตัวเองเพียงพอ ไม่มีรายชื่อคนสนใจเพียงพอ คุณไม่ได้เป็นผู้นำเพียงพอ หมายถึงการต้องเริ่มต้นใหม่ สร้างรากฐานใหม่ที่อีกนานกว่าจะกลับมาเหมือนเดิม ดังนั้นคนทำเครือข่ายที่รายได้สูงๆ เขาจะไม่เป็นอันกินอันนอนกันทีเดียว ถ้าบริษัทร่อแร่ เพราะมันหมายถึงเขาต้องหมดความสะดวกสะบาย รายได้มหาศาลที่ลดลง และต้องไปเริ่มสร้างองค์กรใหม่อาจจะมีคนติดตามบ้างแต่ก็ไม่ได้มากเฉพาะคนที่คุณดึงดูดเขาได้เท่านั้น และทุกบริษัทมันก็มีโอกาสไม่ว่า คุณจะบอกว่าบริษัทคุณมั่นคงแค่ไหนก็ตาม และผลกระทบมันก็จะรุนแรงกับคนที่มีความเป็นผู้นำน้อยกว่า หรือคนมั่นใจในตัวเขาที่น้อยกว่า สำหรับการตลาดดึงดูด Attraction Marketing ทุกคนเข้าร่วมกับคุณเพราะความมั่นใจในตัวคุณ และมีระบบสนับสนุกการทำงานที่ง่าย อย่าลืมแม้บริษัทมันจะล้มไป แต่คนเขาเห็นคุณ เห็นระบบสนับสนุนของคุณ รู้ว่าคุณคือคนที่เขาต้องการ ทำไมเขาจะไม่ไปร่วมด้วย และคุณมีคนในระบบที่สนใจธุรกิจที่คุณจะโปรโมตอะไรไปก็ได้อีก นั่นหมายถึงคุณก็สามารถเอาคืนได้กับเครือข่ายที่ล้ม ในระยะเวลารวดเร็วกว่า
สนใจข้อมูลเพิ่มเติม การทำธุรกิจทางออนไลน์ เพื่อคลายปมความล้มเหลวในตลาดเครือข่ายด้วยการตลาด แบบ Attraction Marketing แบบเข้มข้นผ่านเน็ต ฟรี ที่http://www.perfect4life.agarshop.com หรือ แจ้งชื่อ อีเมล์ เบอร์โทรศัพท์ และบอกว่าท่านขออบรมเพิ่มเติมการทำธุรกิจออนไลน์มาที่E-mail : wirat.we@gmail.com ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายในการอบรมทางอินเตอร์เน็ต
วิรัตน์ วงศ์เข็มทรัพย์
0860031663
Business School's Online

วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

บทความที่ 12 แนะนำวิธีการเลือกเครือข่ายยังไงให้มั่งคั่ง


ถ้าจะเลือกธุรกิจเครือข่ายเราต้องมองอะไรมาก่อนมาหลัง บางคนทำเครือข่ายมาเป็นสิบๆปียังเลือกเครือข่ายไม่เป็น ก็ยังล้มเหลวอยู่นั่นละไม่สำเร็จสักที หรือบางคนสำเร็จระดับสูงมาก สุดท้ายก็ต้องมานับศูนย์ใหม่ในไม่กี่ปีเพราะบริษัทและสายงานล้มไป ก็ยังไม่เข้าใจการเลือกเครือข่ายอยู่ดี ถ้าไม่เข้าใจท่านอาจจะหมุนวนมานับศูนย์เรื่อยๆ หรือท่านอาจจะล้มเหลวตลอดไป!!!
1. เลือกที่วิธีทำธุรกิจ วิธีทำการตลาดก่อนเลยครับ2. -เมื่อเห็นวิธีทำธุรกิจแล้ว ถ้าอยากมั่งคั่งต้องมองโอกาสเติบโต-แผนการตลาดเอื้อแค่ไหน-มองที่ผลิตภัณฑ์-มองที่ความมั่นคง
ข้อที่ 1 เลือกที่วิธีทำธุรกิจหรือวิธีทำการตลาด สำคัญมากที่สุด หลายคนที่ทำเครือข่ายติดหลุมพลางการล่อหลอกด้วยคนที่มีรายได้จำนวนมหาศาล มายืนเรียงกัน ใช้บรรยากาศของห้องกระตุ้นเร้า ใช้การชักแม่น้ำทั้ง5 ทำให้คล้อยตามและจิตนาการที่ฝันเฟื่องไปกันใหญ่ หลังจากนั้นไม่นานเมื่อออกจากห้องประชุมตัดสินใจสมัครและเริ่มสต๊อกสินค้าก็ถูกลอยแพทันที ไม่มีคนสอนงาน ไม่มีคนพาทำงาน สินค้าก็ขายไม่ได้ แนะนำใครก็ไม่สนใจ บางทีพาทำงานบ้างแต่ก็เป็นในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ เช่น สิ่งที่เขาสอนลิสต์รายชื่อคน 100 คนเพื่อโทรไปแนะนำสินค้า หรือไปแนะนำธุรกิจ พร้อมกับคำขู่ว่า " ถ้าไม่รีบโทรหาคนรู้จัก อาจจะมีคนรู้จักไปทำกับคนอื่น หรือซึ้อสินค้ากับคนอื่นนะ"
ดังนั้นการเลือกวิธีทำการตลาดเป็นสิ่งจำเป็นที่สุด ดูก่อนอย่างแรกเครือข่ายที่ท่านจะทำเป็นเครือข่าย เซลล์แมนหรือเครือข่ายผู้บริโภค เครือข่ายเซลล์แมนคือ เครือข่ายที่ต้องมีการขายสินค้าเป็นหลักและใช้การขยายธุรกิจออกไป ข้อดีคืออาจจะมีรายได้จากการขายของ ข้อเสียคือ การจะได้รายได้ตามกฎเกณฑ์ของบริษัทต้องมียอดสูงกว่า แต่สำหรับเครือข่ายผู้บริโภค เน้นการขยายเครือข่ายผู้ใช้สินค้าอย่างเดียวไม่จำเป็นต้องขายของ ข้อดีคืดถ้าต้องการรายได้ตามเกณฑ์การรักษายอดไม่สูงมาก และถ้าสินค้าเป็นที่ต้องการก็อาจจะนำไปขายได้เหมือนกัน ถามตัวเองก่อนว่าท่านชอบเครือข่ายประเภทไหน
หลังจากนั้นเมื่อเข้าใจประเภทเครือข่ายแล้ว ดูต่อไปว่า คนที่มาแนะนำท่านเขาทำการตลาดอย่างไร ไม่ต้องสนใจสิ่งสวยหรูที่เขามาแนะนำ แม่น้ำทั้ง 5 สายที่ไหลมาบรรจบกันที่ปากเขาก็เหมือนกัน ท่านต้องการทำแบบเขาคนนั้นไหม เพราะถ้าท่านมัวแต่หลงกับแผนการจ่ายรายได้ จ่ายเงินเยอะที่สุดในจักรวาล แจกโน่นแจกนี่มากที่สุด มีคนหลักล้านมากที่สุด บริษัทยิ่งใหญ่ที่สุด ผลิตภัณฑ์ขายตัวเองได้ แต่ถ้าท่านสมัครใครร่วมเครือข่ายไม่ได้เลย มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยใช่ไหมครับ หรือท่านขายของไม่ออกสักชิ้น และกินเองจนหมด ท่านจะไม่เจ๊งหรือครับ เพราะถ้าท่านไม่ชอบวิธีทำการตลาดแบบนั้น สุดท้ายท่านก็จะแพ้ความอยากสบายของตัวเอง ไม่เอาแล้ววันนี้ขอนอนดีกว่า ดูทีวีดีกว่า เพราะท่านกำลังทำการตลาดแบบฝืนธรรมชาติของตัวเอง ผมอธิบายที่บทความที่ 7 แล้ว
ข้อ 2 เมื่อเข้าใจวิธีทำการตลาดแล้วผมย้ำนะครับ ต้องเข้าใจวิธีทำการตลาดก่อนว่าเราต้องการจริงๆเท่านั้นในส่วนของการทำการตลาดแบบนี้ หลังจากนั้นต้องเข้าใจ กราฟช่วงชีวิตของธุรกิจเครือข่าย ตามรูปที่เห็น ถ้าท่านไม่เข้าใจกราฟนี้อย่าคิดทำเครือข่ายเด็ดขาด ข่าวร้ายสำหรับบ้านเราคือ 99.99% ของนักธุรกิจเครือข่ายไม่เข้าใจกราฟนี้หรือเข้าใจก็เข้าใจไม่หมด ผมจะอธิบายให้ฟัง ล้างความเข้าใจเก่าคุณทิ้งก่อนนะครับ
-กราฟบอกอะไรเรา เมื่อเริ่มธุรกิจมีคนร่วมน้อยอยู่การเติบโตยังไม่ดีเท่าที่ควร ต้องใช้เวลาในการวอร์มตัวและสร้างผู้นำในธุรกิจเครือข่าย แต่เมื่อผ่านจุดที่ 1 ปรากฎว่ามีคนจำนวนมากเข้ามาร่วมและคนก็หลังไหลกันเข้ามาเรื่อยๆ 80% ของคนทำธุรกิจจะเข้าร่วมช่วงนี้ เมื่อผ่านจุดที่ 2 ธุรกิจเริ่มเป็นที่รู้จักจะหันซ้ายหันขวา หน้าหลังก็เจอคนที่เขาทำหมดแล้วหรือว่ารู้จักหมดแล้วช่วงนี้จะเป็นการรักษาระดับของธุรกิจ
-รู้ไหมว่าผมกำลังจะสื่ออะไร
สังเกตไหมครับว่าคนที่มีรายได้ 7 หลักเขาเริ่มธุรกิจเครือข่ายกันตอนไหน แทบจะทั้งหมดก็ตอนบริษัทเปิดตัวนั่นละครับ หมายความว่า ถ้าคุณต้องการรายได้มหาศาลคุณต้องเริ่มก่อนที่ธุรกิจจะถึงจุดที่ 1 ในกราฟ แล้วถ้าคุณไปเริ่มช่วงที่คน 80 % คนเข้ามาละครับ หมายถึงคุณอาจจะมีรายได้บ้างหรือเสียบ้างอยู่ที่ความสามารถและความขยัน รวมถึงเครื่องมือหรือระบบทำการตลาดที่มาช่วย ช่วงนี้มีการแข่งกันกันเองในเครือข่ายสูงมาก แต่การที่มั่งคั่งมีรายได้ 7 หลักยากมาก คุณต้องมีความสามารถพิเศษที่เหนือกว่าชาวบ้านมาก สำหรับคนที่เริ่มผ่านจุดที่ 2 ไปละ เมื่อผ่านจุดนี้ไปการทำธุรกิจสำหรับคนใหม่จะยากมากนะครับ ส่วนมากจะเข้ามาเป็นผู้บริโภค ไม่ค่อยมีรายได้กันเท่าไหร่ บางคนก็มีรายได้บ้างถ้ามีความพยายามมากกว่า แต่โอกาสที่จะร่ำรวยแทบจะไม่มีเลย คุณต้องเป็นยอดมนุษย์จริงๆ หรือคุณต้องสามารถสวนกระแสในความซบเซาได้
-สิ่งแรกที่ต้องเข้าใจคือทุกบริษัทเครือข่าย ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว และไม่มีใครบอกว่าบริษัทตัวเองแย่หรอกครับ ถ้าจะชวนคนเข้าร่วม
-ไฮไลท์ตอนนี้ก็คือ คุณต้องรู้ให้ได้นะครับว่า ธุรกิจที่คุณจะเลือกกราฟธุรกิจอยู่ในช่วงไหน ถ้าคุณอยากมีรายได้มหาศาลแบบเร็วกว่า เพราะการเลือกผิดจุดนั่นคือโอกาสที่เหลือของคุณ บริษัทที่มีคนรายได้ 7 หลักจำนวนมากที่เขาพยายามนำเสนอ บริษัทที่เปิดมาตั้งนานในบ้านเรา มันกำลังบอกอะไรกับท่านเกียวกับโอกาสรำรวย น่าจะพอเข้าใจนะครับ และที่สำคัญคุณต้องมองไปที่บริษัทด้วยนะครับ มั่นคงแค่ไหน แผนการจ่ายเงิน และที่สำคัญผลิตภัณฑ์ ***ถามตัวเองก่อนนะครับว่า ผลิตภัณฑ์แบบนี้ ถ้าคุณไม่มีรายได้สักบาท คุณจะซื้อใช้ ซื้อกินไหมครับ ถ้าคำตอบคือไม่ คนอื่นเขาก็คงไม่ต่างจากคุณ นั่นหมายถึงธุรกิจเมื่อถึงจุดอิ่มตัว หันซ้ายขวา หน้าหลังก็มีคนทำแล้ว รับสมัครคนยากขึ้นหรือขายของยากขึ้น ถ้าคนไม่มีรายได้ เขาก็จะหยุดรักษายอด เมื่อเขาเห็นว่าผลิตภัณฑ์ไม่ได้จำเป็นกับชีวิต นั่นหมายถึงเครือข่ายที่จะล้มครือแบบโดมิโน่ มันก็จะล้มจะถึงโดมิโน่ตัวสุดท้ายละครับ และเริ่มไปนับศูนย์กันใหม่ หลายคนเข้าใจกราฟนี้แต่เข้าใจไม่หมด**ว่ากราฟนี้มันสือถึงผลิตภัณฑ์ด้วย ถ้าคุณต้องการธุรกิจสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน คุณต้องเข้าใจให้ชัดเจน ***ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของไม่จำเป็นการการดำเนินชีวิต เป็นผลิตภัณฑ์แฟชั่น สุดท้ายเครือข่ายก็จะจบลงเมื่อถึงจุดอิ่มตัว สิ่งที่ท่านทุ่มเทก็จะจบไป ทีนี้เข้าใจหรือยังครับว่า ทำไมบางเครือข่ายดังๆก็ยังล้มไป
แล้วข้อดีของการตลาดแบบดึงดูด Attraction Marketing จะมาช่วยอะไรได้ไหม
เพราะท่านทำการตลาดด้วยการแบรนด์ตัวท่านเองไม่ได้มาแบรนด์บริษัทเหมือนคนอื่นๆ คนเขารู้จักท่านในฐานะมืออาชีพที่เขาอยากร่วม ท่านมีระบบฐานข้อมูลคนที่ต้องการสำเร็จที่ท่านจะให้ข้อมูลอะไรกับเขาก็ได้ ท่านมีความสัมพันธ์กับเขาเพราะเขารู้จักท่านในฐานะคนรู้จัก และมืออาชีพทางด้านเครือข่าย ถ้าธุรกิจมันแย่ที่สุดคือ เครือข่ายล้ม แต่การตลาดแบบดึงดูด เครือข่ายที่หายไปท่านสามารถเอาคืนในระยะเวลาอันรวดเร็วมากกับบริษัทใหม่ๆ เพราะคนจะติดสอยห้อยตามคนที่เขามั่นใจด้วยเสมอ
-แต่ถ้าจะให้ดีที่สุดท่านมีระบบที่ยอดเยี่ยมแล้ว ท่านควรเลือกบริษัทที่ยอดเยี่ยมทั้งโอกาสมั่งคั่งแผน ผลิตภัณฑ์(ถามตัวเองว่า ถ้าท่านไม่มีรายได้สักบาทกับบริษัทนี้ ท่านจะยังซื้อกินซื้อใช้ไหม)
สนใจอบรมการทำธุรกิจทางออนไลน์เกี่ยวกับการคลายปมความล้มเหลวในตลาดเครือข่ายด้วยการตลาด แบบ Attraction Marketing แบบเข้มข้นผ่านเน็ต ฟรี ที่
http://www.perfect4life.agarshop.com
หรือ แจ้งชื่อ อีเมล์ เบอร์โทรศัพท์ และบอกว่าท่านขออบรมเพิ่มเติมการทำธุรกิจออนไลน์มาที่

e-mail : wirat.we@gmail.com/ ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายในการอบรมทางอินเตอร์เน็ต
วิรัตน์ วงศ์เข็มทรัพย์
0860031663

บทความที่ 11 การตลาดแบบดึงดูด Attraction Marketing สิ่งที่ copy ยากมากในการตลาดรูปแบบเดิมๆ

เราเคยสังเกต ไหมครับว่า คนที่เขามีรายได้มหาศาลกับเครือข่ายทำไมเวลาเขาจะรับสมัครใครเข้ามาร่วมมันง่ายจัง ทั้งที่เราพยายามก็เหมือนเขาอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำไป ก็ยังไม่ได้ผลลัพธ์เหมือนคนนั้น
มีนิทานคนทำเครือข่ายมาเล่าให้ฟัง มีธุรกิจเครือข่ายตัวหนึ่ง นายเพชรเม็ดงาม เป็นคนที่เริ่มทำธุรกิจนั้นตั้งแต่แรกในประเทศไทย และเมื่อเวลาผ่านไปหลายปีจากองค์กรธุรกิจเครือข่ายเล็กๆ กลายเป็นองค์กรใหญ่โต นายเพชรเม็ดงาม กลายเป็นคนที่มีรายได้มหาศาล 7-8 หลักทุกเดือน เนื่องจากได้ผลลัพธ์กับองค์กรที่ใหญ่โตขึ้น นายเพชรเม็ดงาม ได้รับเชิญเป็นวิทยากรพิเศษ ในงานประชุมของบริษัทที่จัดตามโรงแรมต่างๆบ่อยๆ ในฐานะผู้ที่สำเร็จกับเครือข่ายและมีรายได้มหาศาล ทุกคนต่างก็ชื่นชมในความสามารถ ชื่อของนายเพชรเม็ดงาม เป็นที่กล่าวขาน ทั้งในห้องประชุมและทางเน็ต เป็นคนที่หลายๆคนอย่างเอาอย่าง
วันนั้นให้ห้องประชุม นางปลื้มใจ ซึ่งเป็นผู้มุ่งหวังของผู้ทำธุรกิจท่านหนึ่งที่อยู่ลำดับลึกมาก ในองค์กรของนายเพชรเม็ดงาม ได้ประทับใจในตัวของนายเพชรเม็ดงามอย่างมาก ด้วยการที่นางปลื้มใจเป็นคนมั่นใจในตัวเองสูงนางปลื้มใจ และมองเห็นว่าถ้าร่วมเครือข่ายกับคนที่เขาแนะนำเข้ามาชมวันนี้คงมีโอกาสสำเร็จน้อย และจะดีมากถ้าได้ร่วมกับนายเพชรเม็ดงาม นางปลื้มใจเลยตัดสินใจที่จะไม่ร่วมกับนักธุรกิจท่านนั้น แล้วเริ่มต้นหาข้อมูลชื่อ เบอร์โทรของนายเพชรเม็ดงามทันที ในอินเตอร์เน็ต และได้เบอร์โทรสมใจ ตัดสินใจโทรหาและบอกว่าอยากเข้าร่วมกับนายเพชรเม็ดงาม เนื่องจากไม่รู้มาก่อนว่านางปลื้มใจ เคยเป็นผู้มุ่งหวังของทีมงานตัวเอง และเห็นว่านางปลื้มใจมีคุณสมบัติที่ดีหลายอย่าง นายเพชรเม็ดงามเลยตัดสินใจรับสมัครติดตัวเองทันที นางปลื้มใจดีใจมากที่ได้ร่วมกับคนที่มีรายได้มหาศาลอย่างนี้
เมื่อเริ่มเรียนรู้งานจากนายเพชรเม็ดงาม นางปลื้มใจได้แปลกในเล็กน้อยเมื่อพบว่านายเพชรเม็ดงามก็ไม่ได้สอนอะไรพิเศษมากไปกว่า ที่คนแนะนำท่านเดิมแนะนำ สิ่งที่นางปลื้มใจได้เห็นมากขึ้นพบว่าบางทีเมื่อขอความช่วยเหลืออะไรก็ตาม นายเพชรเม็ดงามจะไม่ค่อยตอบสนองเท่าไหร่ "หรือเพราะเขามีตำแหน่งใหญ่โต เลยติดธุระค่อนข้างบ่อย" นางปลื้มใจพูดกับตัวเอง นางปลื้มใจตัดสินใจไปหาที่บ้านอันหรูหราของนายเพชรเม็ดงาม ก็เลยแปลกใจไปใหญ่ "โอ้ว นายเพชรเม็ดงาม กำลังตีกอล์ฟ สบายใจเฉิม มีสาวสวยพริตตี้ประกบ 2 คน" นางปลื้มใจตัดสินใจเดินเข้าไปทัก และพยายามคุยปัญหาที่เธอเจออยู่ มีคนสนใจธุรกิจและต้องการให้นายเพชรเม็ดงาม ช่วยเหลือเธอด่วน ไม่งั้นเดือนนี้เธอจะไม่มีเงินรักษายอดและรายได้ไม่เกิดแน่ๆ นายเพชรเม็ดงามบอกว่า ให้เธอกลับไปก่อนเดี๋ยวจะติดต่อกลับไป เธอกลับออกมาจากบ้านนายเพชรเม็ดงาม และรู้สึกว่าเสียใจนิดๆ หลังจากนั้นนายเพชรเม็ดงามก็ไม่ติดต่อหาเธอตามที่บอก
เมื่อถึงช่วงงานเปิดโอกาสทางธุรกิจ นางปลื้มใจได้ชวนคนเข้าในงานประชุมได้ 3 ท่านที่แสนจะลำบากในการชวนเพราะชวนมาเป็น 20 กว่าคนแต่มาแค่ 3 คน แต่เธอก็ดีใจที่มีคนมาได้ ทั้ง 3 คน มี 2 คนเป็นนักศึกษาที่อยากหารายได้เพิ่ม และอีกคนเป็นพนักงานประจำที่อยากออกจากงานเพราะอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง หลังจากได้ฟังงานประชุมจนจบ ทุกคนก็ทะยอยกันกลับ 3 คนที่ร่วมประชุมไม่มีใครสมัครกับเธอเลย นักศึกษาทั้ง 2 คนบอกว่าไม่มีเงินค่าสมัคร ส่วนอีกคนบอกว่ายังไม่พร้อมตอนนี้
หลังจากนั้น 1 เดือนผ่านไป นายเพชรเม็ดงามได้จัดงานเลี้ยงยินดีให้กับสมาชิกในทีมที่ได้ขึ้นตำแหน่งใหม่ๆ ได้เชิญคนที่เป็นต้นๆสายของธุรกิจเข้ามาในงานเลี้ยง และทีมงานติดตัวเองเข้ามาในงานด้วย นางปลื้มใจก็ได้รับเชิญ และเธอแปลกใจมาก คนที่เธอเคยชวนเข้าอบรมที่โรงแรมก่อนหน้าก็มาด้วย และได้ถามคนที่เป็นไซด์ไลน์ที่มางานด้วยกัน เขาบอกว่า "อ้อเป็นทีมงานใหม่ของพี่เพชรเม็ดงามเขา"....
**เป็นแค่เรื่องสมมติ ไม่เกี่ยวกับ บุคคล สถานที่หรือ อะไรก็ตามนะครับ
นิทานเรื่องนี้บอกอะไรกับเราบ้าง-คนที่มีรายได้มหาศาลกับเครือข่าย เขาอยู่ในการตลาดดึงดูด(รายได้)ที่ใครๆ ก็อยากเข้าร่วมเพราะมั่นใจว่าเขาจะพาสำเร็จแน่ๆ-ข่าวไม่สู้จะดีคือ คนที่เขามีรายได้มหาศาลเหล่านั้นแทบทุกคนไม่มีระบบที่เอื้อให้ทุกคนสำเร็จ-ข่าวร้ายคือ คนเหล่านั้นเขาไม่เข้าใจด้วยซ้ำไปว่าเขาอยู่ในการตลาดดึงดูดที่ใครๆก็อยากเข้าร่วมกับเขา-ข่าวร้ายกว่า คนเหล่านั้นไม่สามารถที่จะสอนทีมงานให้เข้าใจการตลาดดึงดูดและเป็นแบบเขาได้-ข่าวร้ายยิ่งกว่า ธรรมชาติของคน ยิ่งร่ำรวยขึ้น คนจะยิ่งเหนื่อยง่ายขึ้น ทำงานหนักได้น้อยลง ความพยายามลดลง-ข่าวร้ายที่สุด เขาจะสอนให้คุณทำสิ่งที่เขาอยากให้คุณทำและเขาไม่เคยทำ และผลักไสให้พยายามในสิ่งที่คุณไม่ชอบมากที่สุด-จงอย่าแค่มองเครือข่าย แค่เพราะหลงในบางอย่างที่สวยงาม แผนง่ายที่สุดในโลก จ่ายมากที่สุดในจักรวาล บริษัทสุดยอดเบอร์หนึ่ง แจกโน่นแจกนี่มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา มีคนมีรายได้มหาศาลมากที่สุดในโลก ถามตัวเองก่อน คนมาแนะนำเขาทำการตลาดอย่างไร เราอยากทำอย่างนั้นไหม ถ้าอยากทำงานแบบนั้นเยี่ยมเลยคุณกำลังพบทางสว่าง ถ้าไม่ ให้รีบถอยออกมา เพราะถ้าคุณเข้าไปคุณก็จะเจอการทำตลาดที่ฝืนความรู้สึกตัวเองทันที สุดท้ายก็จะล้มเหลว
การตลาดดึงดูดคือการตลาดรูปแบบเดียวกับคนที่เขามีรายได้มหาศาลเป็นอยู่ ณ ขณะนี้ แต่เขาไม่รู้ตัวเอง นั่นหมายถึงท่านกำลังได้รู้วิธีการดึงดูดคนให้เข้ามาร่วมกับท่านเหมือนกับคนที่เขามีรายได้มหาศาล เหตุผลเพราะคนอยากร่วมเครือข่ายกับคนที่มั่นใจว่าพาเขาสำเร็จแน่ๆ แล้วทำไมคนที่ทำการตลาดแบบนี้จะไม่สำเร็จล่ะ...

บทความที่ 10 การคัดเลือกคนที่จะเข้าร่วมเครือข่ายในระบบการตลาดแบบดึงดูด


ท่านทราบแล้วว่าหัวใจของการตลาดเครือข่ายแบบดึงดูด Attraction Marketing คือ การสร้างความเชื่อมั่นในตัวเรากับคนที่สนใจ เมื่อคนเห็นความเป็นมืออาชีพของเรา และเขาเห็นว่าเราสามารถพาเขาสำเร็จได้ เราก็อยากจะร่วมกับเรา หน้าที่ของเราคือ การคัดเลือกว่าใครบ้างที่เราต้องการให้ร่วม!!!
เราสามารถทำอะไรบางอย่างก่อนคัดเลือกได้ก็คือ เราสามารถให้ข้อมูลการทำธุรกิจเครือข่ายอย่างไรให้สำเร็จ เขาควรทำงานอย่างไร ระบบเป็นแบบไหนบ้างที่จะเอื้อให้สำเร็จจริงๆ แบบเข้มข้น และเปิดโอกาสให้คนที่เขาต้องการร่วมกับเรา ได้แสดงว่าเขาต้องการเข้าร่วมกับเรา หน้าที่ของเราคือ การเลือกคนที่เราต้องการให้ร่วม การคัดเลือกคนเข้าร่วมเครือข่ายกับเรานั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการเลือกแฟน นั่นคือเราอาจจะต้องดูหลายๆคุณสมบัติเช่น เขาตั้งใจแค่ไหนที่จะเข้าร่วม เพราะบางคนแค่แวะเข้ามาดูเพื่อจะได้รู้อะไรบางอย่างที่เราทำอยู่ หรือ บางคนอาจจะแค่อยากจะรู้แต่ไม่ต้องการร่วมกับเราจริงๆ เขาเข้าใจการตลาดแบบที่เราทำแค่ไหน เขามั่นใจได้อย่างไรว่าระบบทำงานแบบนี้มันจะเอื้อให้สำเร็จ ทรรศนคติเขาเป็นอย่างไรบ้าง มีทักษะตรงตามที่เราต้องการไหม และเรื่องความพร้อมด้านการลงทุน
บริบทของเราในการคัดคน ไม่ต่างอะไรจากการคัดเลือกคนเข้ามาทำงานในบริษัท นั่นคือเราต้องชัดเจนกับตัวเองก่อนว่าเราเป็นคนเลือกเขา ไม่ใช่ให้เขามาเลือกเรา
ถ้าคิดว่าสิ่งที่คุยกำลังเป็นลักษณะการโน้มน้าวหยุดคิดสักนิดเพราะท่านกำลังพยายามง้อคนที่ท่านสัมภาษณ์อยู่ พยายามชักจูงอยู่ เมื่อคนเขามองว่าตัวเขาเองสามารถเลือกหรือไม่เลือกเราก็ได้ เขาจะเป็นคนถือไพ่ที่เหนือกว่าทันที นั่นหมายถึงการล้มเหลวในการสัมภาษณ์อย่างสิ้นเชิง อย่าลืมนะครับ การสัมภาษณ์คือการคัดคนที่ใช่ เพื่ออนุญาติให้เข้าร่วมกับเราหรือไม่ ถ้าเขาถือไพ่เหนือกว่านั่นคือท่านไม่มีสิทธิ์คัดคนได้เลย สิ่งที่อยากแนะนำสำหรับท่านที่ทำการตลาดดึงดูด ท่านต้องแฝงการตลาดแบบปฎิเสธคนในนั้นด้วย หมายถึงคนที่ไม่มีคุณสมบัติที่จะรับเข้าร่วม ท่านต้องปฎิเสธทันทีอย่าเสียดาย เพราะการรับคนเหล่านี้เข้ามานั่นคือ การได้คนที่ไม่ใช่มาร่วมธุรกิจและโอกาสที่จะล้มเหลวสูง แม้ว่าการทำงานจะง่ายเท่าใดก็ตาม และตัวท่านจะเสียเวลาในการดูแลคนเหล่านี้มากผิดปกติ
เมื่อเข้าสู่สถานการณ์การทำงานแบบนี้ มีคนมาขอสัมภาษณ์เพื่อจะเข้าร่วมธุรกิจกับท่านสม่ำเสมอ ตัวท่ายเองเพียงแค่คัดเอาคนที่ใช่ ตัวท่านเองจะเข้าสู่การตลาดดึงดูดแบบเต็มตัวแล้ว แต่การที่ท่านเองจะทำการตลาดแบบนี้ให้สมบูรณ์แบบ ท่านต้องมีระบบการทำการตลาดที่เอื้อจริงๆ และคนเขารู้จักท่านเท่านั้นในฐานะคนที่จะพาเขาสำเร็จ และท่านต้องเป็นอย่างนั้นจริงๆ ถ้าเทียบการตลาดดึงดูดว่าเหมือนคนที่หน้าตาดี อาจจะมีคนมาให้คัดเลือกเป็นแฟนเยอะ แต่ถ้าเขารู้ว่าท่านดีแค่หน้าตาแต่นิสัยแย่ คงจะคบกันได้ไม่นาน เหมือนในการทำธุรกิจที่ท่านต้องเป็นอย่างที่คุยจริงๆ ท่านต้องทำอย่างที่พูด และต้องมีระบบสนับสนุนการทำงานเหมือนที่ท่านบอกเขาจริงๆ
เมื่อท่านตัดสินใจที่จะรับเขาเข้าร่วม ท่านต้องเข้าใจธรรมชาติของคนคือ สิ่งที่คนมองหาอย่างหนึ่งในการพูดคุยคือ เขาจะได้อะไรบ้างเมื่อร่วมกับเรา และเขาจะสูญเสียอะไรถ้าเขาไม่ได้ร่วม ในลักษณะไม่ใช่การชักจูง เป็นรายละเอียดสำคัญที่ต้องเพิ่มเติม ให้กับเขาทราบ
มองเห็นใช่ไหมครับว่าการตลาดดึงดูดมีข้อแตกต่างในการที่จะได้คนเข้ามาร่วมแบบสิ้นเชิง ทำให้ท่านได้คนมีคุณภาพเข้ามาร่วม นั่นหมายถึงโอกาสคนที่เข้าร่วมสำเร็จสูงมากอาจจะถึง 90% ซึ่งปกติคนทำเครือข่ายทั่วไปสำเร็จแค่ 0.01% การทำการตลาดดึงดูด Attraction Marketing จะเป็นมุมมองใหม่ในการทำเครือข่ายในอนาคต เพราะทุกวันนี้คนทำเครือข่ายถูกมองในแง่ลบตลอดเพราะรูปแบบการตลาดเดิมๆ บางคนเสียเพื่อน เสียแฟน เสียญาติ เสียคนรู้จัก เขากำลังมองหาการตลาดรูปแบบใหม่ที่ไม่ต้องรบกวนใคร และง่ายกว่า นั่นคือโอกาสของคนที่เริ่มการตลาดแบบดึงดูด Attraction Marketing ที่จะสำเร็จในอนาคตที่มากกว่า...
สนใจข้อมูลเพิ่มเติม การทำธุรกิจทางออนไลน์ เพื่อคลายปมความล้มเหลวในตลาดเครือข่ายด้วยการตลาด แบบ Attraction Marketing แบบเข้มข้นผ่านเน็ต ฟรี ที่http://www.perfect4life.agarshop.com
หรือ แจ้งชื่อ อีเมล์ เบอร์โทรศัพท์ และบอกว่าท่านขออบรมเพิ่มเติมการทำธุรกิจออนไลน์มาที่E-mail : wirat.we@gmail.com ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายในการอบรมทางอินเตอร์เน็ต
วิรัตน์ วงศ์เข็มทรัพย์
0860031663
Business School's Online