วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

บทความที่ 9 การทำการตลาดไม่ฝืนธรรมชาติมนุษย์


พอได้ยินคำว่า ธรรมชาติของมนุษย์ คุณต้องนึกถึงการที่มนุษย์กระทำหรือตัดสินใจกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือสภาวะใดสภาวะหนึ่งโดยอัตโนมัติ ที่มาจาก 2 ภาวะอารมณ์ ก็คือ รัก กับ กลัว-ถ้าความรักคือ ความยินดี ปรารถนาดี ความสำเร็จ การได้มาซึ่งสิ่งปรารถนา ความปิติ ความสุข การช่วยเหลือแบ่งปัน การดึงดูด-ถ้าความกลัวคือ การป้องกันตัวเอง การผลักไส ความตรึงเครียด ความเศร้าโศก อิจฉาริษยา เห็นแก่ตัว ความเจ็บปวดธรรมชาติของมนุษย์จะพยายามเลี่ยงภาวะจากความกลัว ก่อนที่จะเลือกภาวะแห่งความรักเสมอ เช่น มนุษย์เลือกที่จะเลี่ยงความรู้สึกเจ็บปวดก่อน แม้จะมองเห็นว่าถ้าเราทำอย่างนั้นเราจะได้รับความสำเร็จ และความสุข ยกตัวอย่างเช่น คนที่ทำเครือข่ายเลือกที่จะอยู่เฉยๆ แทนที่จะทำงานเพราะไม่อยากโดนปฎิเสธ
แล้วการตลาดแบบเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์เป็นอย่างไร?ธรรมชาติของคน ข้อแรก คนไม่ชอบถูกขาย นี่ไงครับทำไมท่านเสียเพื่อน คนรู้จัก เพราะท่านพยายามที่จะขายอะไรเขาอยู่ไงครับ คนเราจะมีระบบป้องกันตัวเองทันทีธรรมชาติของคน ข้อที่สอง คนชอบซื้อ ถ้าท่านมีเงินสัก 100 ล้าน ผมว่าเมนูที่ท่านจะใช้เงิน 99เปอร์เซ็นต์เป็นการซื้อเช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อทื่ดิน ซื้อ อื่นๆอีกมากมายธรรมชาติของคน ข้อที่สาม คนไม่ชอบง้อคน ถามหน่อยครับ ท่านที่ทำเครือข่าย ท่านชอบง้อคนไหม แล้วย้อนมองการตลาดทีท่านพยายามโน้มน้าวคน มาสนใจกับท่าน พยายามสาธิตสินค้า พยายามปิดการขาย รู้ไหมท่านกำลังง้อคน
เห็นภาพไหมครับว่า ท่านกำลังทำการตลาดที่ฝืนธรรมชาติ ทั้งกับคนที่ท่านแนะนำ และตัวของท่านเอง เพราะท่านพยายามขาย โน้วน้าวเต็มที่ แต่คนที่ท่านแนะนำพยายามที่จะออกไปจากบริบท
นั้นเพราะไม่อยากถูกขาย
การตลาดที่ไม่ฝืนธรรมชาติ ก็คือการที่ท่านทำการตลาดแบบไม่ง้อใคร และท่านต้องนำเสนอในสิ่งที่เขาต้องการมันอยู่แล้วหรือแก้ปัญหาให้เขาได้ ไม่ใช่มาโน้มน้าวให้เขาเริ่มสนใจ ตัวอย่างหนึ่ง ที่เห็นชัดเจนคือ ถ้าคุณพยายามขายเนื้อสันอย่างดีให้กับคนที่กินเจ แม้เนื้อท่านจะมีคุณภาพเท่าใดก็ไม่มีคนซื้อ คุณต้องมีระบบกรองว่าเขากินเนื้อ ถ้าจะให้ดีต้องมีระบบกรองไปอีกว่าเขาชอบทานเนื้อสันคุณภาพดี แล้วคุณก็แค่ทำการตลาดกับคนแบบนี้ไงครับ
การทำการตลาดแบบไม่ฝืนธรรมชาติ สิ่งแรกทีท่านต้องรู้คือกลุ่มเป้าหมายของท่านคือใคร อย่างที่สอง ท่านมีวิธีการหรือสินค้าที่เป็นที่ต้องการของเขาหรือไม่ อย่างที่สาม จะทำอย่างไรในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เมื่อท่านเข้าใจทั้งสามข้อแล้วก็สามารถวางกลยุทธ์ ในการทำเครือข่ายของท่านได้
ทีนี้มองออกแล้วใช่ไหมครับว่าท่านจะทำการตลาดแบบไม่ฝืนธรรมชาติของคนอย่างไรบนพื้นฐานไม่ง้อใคร และไม่มีใครรู้สึกว่าถูกขาย


สนใจอบรมการทำธุรกิจทางออนไลน์เกี่ยวกับการคลายปมความล้มเหลวในตลาดเครือข่ายด้วยการตลาด แบบ Attraction Marketing แบบเข้มข้นผ่านเน็ต ฟรี ที่http://www.perfect4life.agarshop.com หรือ แจ้งชื่อ อีเมล์ เบอร์โทรศัพท์ และบอกว่าท่านขออบรมเพิ่มเติมการทำธุรกิจออนไลน์มาที่E-mail : wirat.we@gmail.com ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายในการอบรมทางอินเตอร์เน็ต

วิรัตน์ วงศ์เข็มทรัพย์

0860031663

The Business School's Online

บทความที่ 8การคัดเลือกคนเข้าร่วมเครือข่าย


ท่านทราบแล้วว่าหัวใจของการตลาดเครือข่ายแบบดึงดูด Attraction Marketing คือ การสร้างความเชื่อมั่นในตัวเรากับคนที่สนใจ เมื่อคนเห็นความเป็นมืออาชีพของเรา และเขาเห็นว่าเราสามารถพาเขาสำเร็จได้ เราก็อยากจะร่วมกับเรา หน้าที่ของเราคือ การคัดเลือกว่าใครบ้างที่เราต้องการให้ร่วม!!!
เราสามารถทำอะไรบางอย่างก่อนคัดเลือกได้ก็คือ เราสามารถให้ข้อมูลการทำธุรกิจเครือข่ายอย่างไรให้สำเร็จ เขาควรทำงานอย่างไร ระบบเป็นแบบไหนบ้างที่จะเอื้อให้สำเร็จจริงๆ แบบเข้มข้น และเปิดโอกาสให้คนที่เขาต้องการร่วมกับเรา ได้แสดงว่าเขาต้องการเข้าร่วมกับเรา หน้าที่ของเราคือ การเลือกคนที่เราต้องการให้ร่วม การคัดเลือกคนเข้าร่วมเครือข่ายกับเรานั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการเลือกแฟน นั่นคือเราอาจจะต้องดูหลายๆคุณสมบัติเช่น เขาตั้งใจแค่ไหนที่จะเข้าร่วม เพราะบางคนแค่แวะเข้ามาดูเพื่อจะได้รู้อะไรบางอย่างที่เราทำอยู่ หรือ บางคนอาจจะแค่อยากจะรู้แต่ไม่ต้องการร่วมกับเราจริงๆ เขาเข้าใจการตลาดแบบที่เราทำแค่ไหน เขามั่นใจได้อย่างไรว่าระบบทำงานแบบนี้มันจะเอื้อให้สำเร็จ ทรรศนคติเขาเป็นอย่างไรบ้าง มีทักษะตรงตามที่เราต้องการไหม และเรื่องความพร้อมด้านการลงทุน
บริบทของเราในการคัดคน ไม่ต่างอะไรจากการคัดเลือกคนเข้ามาทำงานในบริษัท นั่นคือเราต้องชัดเจนกับตัวเองก่อนว่าเราเป็นคนเลือกเขา ไม่ใช่ให้เขามาเลือกเรา ถ้าคิดว่าสิ่งที่คุยกำลังเป็นลักษณะการโน้มน้าวหยุดคิดสักนิดเพราะท่านกำลังพยายามง้อคนที่ท่านสัมภาษณ์อยู่ พยายามชักจูงอยู่ เมื่อคนเขามองว่าตัวเขาเองสามารถเลือกหรือไม่เลือกเราก็ได้ เขาจะเป็นคนถือไพ่ที่เหนือกว่าทันที นั่นหมายถึงการล้มเหลวในการสัมภาษณ์อย่างสิ้นเชิง อย่าลืมนะครับ การสัมภาษณ์คือการคัดคนที่ใช่ เพื่ออนุญาติให้เข้าร่วมกับเราหรือไม่ ถ้าเขาถือไพ่เหนือกว่านั่นคือท่านไม่มีสิทธิ์คัดคนได้เลย สิ่งที่อยากแนะนำสำหรับท่านที่ทำการตลาดดึงดูด ท่านต้องแฝงการตลาดแบบปฎิเสธคนในนั้นด้วย หมายถึงคนที่ไม่มีคุณสมบัติที่จะรับเข้าร่วม ท่านต้องปฎิเสธทันทีอย่าเสียดาย เพราะการรับคนเหล่านี้เข้ามานั่นคือ การได้คนที่ไม่ใช่มาร่วมธุรกิจและโอกาสที่จะล้มเหลวสูง แม้ว่าการทำงานจะง่ายเท่าใดก็ตาม และตัวท่านจะเสียเวลาในการดูแลคนเหล่านี้มากผิดปกติ
เมื่อเข้าสู่สถานการณ์การทำงานแบบนี้ มีคนมาขอสัมภาษณ์เพื่อจะเข้าร่วมธุรกิจกับท่านสม่ำเสมอ ตัวท่ายเองเพียงแค่คัดเอาคนที่ใช่ ตัวท่านเองจะเข้าสู่การตลาดดึงดูดแบบเต็มตัวแล้ว แต่การที่ท่านเองจะทำการตลาดแบบนี้ให้สมบูรณ์แบบ ท่านต้องมีระบบการทำการตลาดที่เอื้อจริงๆ และคนเขารู้จักท่านเท่านั้นในฐานะคนที่จะพาเขาสำเร็จ และท่านต้องเป็นอย่างนั้นจริงๆ ถ้าเทียบการตลาดดึงดูดว่าเหมือนคนที่หน้าตาดี อาจจะมีคนมาให้คัดเลือกเป็นแฟนเยอะ แต่ถ้าเขารู้ว่าท่านดีแค่หน้าตาแต่นิสัยแย่ คงจะคบกันได้ไม่นาน เหมือนในการทำธุรกิจที่ท่านต้องเป็นอย่างที่คุยจริงๆ ท่านต้องทำอย่างที่พูด และต้องมีระบบสนับสนุนการทำงานเหมือนที่ท่านบอกเขาจริงๆ
เมื่อท่านตัดสินใจที่จะรับเขาเข้าร่วม ท่านต้องเข้าใจธรรมชาติของคนคือ สิ่งที่คนมองหาอย่างหนึ่งในการพูดคุยคือ เขาจะได้อะไรบ้างเมื่อร่วมกับเรา และเขาจะสูญเสียอะไรถ้าเขาไม่ได้ร่วม ในลักษณะไม่ใช่การชักจูง เป็นรายละเอียดสำคัญที่ต้องเพิ่มเติม ให้กับเขาทราบ
มองเห็นใช่ไหมครับว่าการตลาดดึงดูดมีข้อแตกต่างในการที่จะได้คนเข้ามาร่วมแบบสิ้นเชิง ทำให้ท่านได้คนมีคุณภาพเข้ามาร่วม นั่นหมายถึงโอกาสคนที่เข้าร่วมสำเร็จสูงมากอาจจะถึง 90% ซึ่งปกติคนทำเครือข่ายทั่วไปสำเร็จแค่ 0.01% การทำการตลาดดึงดูด Attraction Marketing จะเป็นมุมมองใหม่ในการทำเครือข่ายในอนาคต เพราะทุกวันนี้คนทำเครือข่ายถูกมองในแง่ลบตลอดเพราะรูปแบบการตลาดเดิมๆ บางคนเสียเพื่อน เสียแฟน เสียญาติ เสียคนรู้จัก เขากำลังมองหาการตลาดรูปแบบใหม่ที่ไม่ต้องรบกวนใคร และง่ายกว่า นั่นคือโอกาสของคนที่เริ่มการตลาดแบบดึงดูด Attraction Marketing ที่จะสำเร็จในอนาคตที่มากกว่า...

บทความที่ 7การสร้างความสัมพันธ์แบบอัตโนมัติกับระบบ Email Marketing


คุณเคยได้ยินคำพูดนี้ไหมครับ " ถ้าธุรกิจเครือข่ายไหนไม่มีระบบติดตามคนอัตโนมัติ Email Marketing อย่าคิดไปทำเด็ดขาด "
สาเหตุเพราะ คุณต้องทำงานหนักแน่ๆ คุณจะทำอย่างไรเมื่อเริ่มมีคนให้ความสนใจ คุณจะอาศัยการโทรไปหาเหรอครับ โอ้ว..คุณต้องเป็น มือถือลิซึ่ม หรือ นางทางโทรศัพท์แน่ๆ แถมคนที่โทรหาคุณแน่ใจหรือครับว่าเขาสนใจจริงๆหรือแค่กรอกมาดูเฉยๆ สถิติของการทำเครือข่าย บอกว่า 100 คนที่กรอกมาจะมีแค่ 2-3 คนเท่านั้นที่จริงจัง 97-98 คนเป็นคนที่ไม่ได้อยู่ในข่าย คุณจะใช้เวลาเท่าไหร่ในการคุย ยิ่งคุณเป็นคนใหม่ ผมบอกเลยว่าร้อยทั้งร้อยที่โทร เจออาการเหวอแน่ๆ จากการปฎิเสธจากรายชื่อเหล่านั้น ที่ปรึกษาบอกว่าไงครับ "ทำต่อไปหาคนที่ใช่ " แต่เราเป็นคนมีจิตใจ คงไม่อยากเจอการปฎิเสธมากมายขนาดนั้น หรือบางคนสติแตกไปเลยก็มี
การสร้างความสัมพันธ์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจเครือข่าย เพราะไม่มีใครซื้อหรือ เข้าร่วมกับเครือข่าย กับคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนแบบง่ายๆหรอกครับ คุณคิดว่าเขาจะทำธุรกิจกับคุณเมื่อคุยกัน 1-2 ครั้งเหรอครับ สถิติเครือข่ายบอกว่า คนที่เข้าร่วมเครือข่ายส่วนมากจะเข้าร่วมเมื่อถูกติดตามผลอย่างน้อย 7 ครั้ง .....คราวนี้รู้หรือยังว่าทำไมยังล้มเหลวกับระบบเดิมๆ ที่ใช้การติดตามผลทางโทรศัพท์ เพราะคุณมั่นใจไหมว่าจะกล้าโทรหาคนสนใจอย่างน้อย 7 ครั้ง เป็นผมใครโทรมาขนาดนั้น โดยที่ไม่ใช่คนรู้จักมาก่อน ผมก็คงบอกว่า "คุณมีธุระอะไรนักหนากับผม"
การติดตามผ่านทางอีเมล์ที่เรียกว่า Email Marketing จึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะ-ไม่ต้องเหนื่อยคุยกับคนเยอะ ใช้ระบบอีเมล์ติดตามให้แทน-กรองคนมาให้คุยเฉพาะคนที่เขาสนใจเท่านั้น ระบบนี้จะทำให้คุณไม่ต้องเหนื่อยกับคนที่ไม่สนใจ-ทำให้คนที่ไม่สนใจในตอนแรกกลับมาสนใจธุรกิจเรา ไอเดียของที่ปรึกษาคุณที่บอกว่า คนทุกคนที่คุณเจอตามท้องถนนคือทีมงานในอนาคต เป็นลูกค้าในอนาคต ให้คุยกับทุกคนบนท้องถนน เป็นไอเดียเดียวกันกับเราครับ แต่ที่ปรึกษาคุณ ใช้วิธีที่ไม่เวิร์คในการทำให้คนสนใจ แต่อีเมล์ที่เราส่งไปจะค่อยๆโน้มเขามาศึกษาสิ่งที่เรานำเสนอมากขึ้น-เป็นการโปรโมตความเป็นมืออาชีพของคุณอีกทางหนึ่ง ทำให้คนรู้จักคุณในฐานะ มืออาชีพ คุณจะเริ่มสร้างกรอบความศรัทธาให้กับเขาอีกทาง-ฉันจะเริ่มส่งเมล์หาคนสนใจเลย จะเลิกโทรแล้วละ" หยุด!!!!....คุณต้องดูเงื่อนไขนี้-คุณกำลังจะสแปร์มเมล์หรือเปล่า ระบบที่ผมบอกต้องเป็นระบบถูกกฎหมาย คนที่รับเมล์ยืนยันที่จะรับข้อมูลข่าวสารจากท่านถึงจะส่งให้เขาได้ และเขาสามารถยกเลิกการรับได้ถ้าไม่พอใจที่จะรับเมล์ต่อ ถ้าท่านจะหารายชื่อเมล์แล้วมาส่งโดยใช้เมล์ท่าน หรือ โปรแกรมส่งเมล์ ท่านกำลังเดินหาตาราง-ความเป็นมืออาชีพของเนื้อหาเป็นสิ่งสำคัญ ข้อความท่านกำลังดึงดูดคนหรือ กำลังไล่คนหนี...พิจารณาหรือยัง มั่นใจอย่างไรสิ่งที่ท่านกำลังเขียนมันเวิร์ค-จงเชื่อ ไม่มีใครอยากเป็นคนถูกขาย ท่านกำลังส่งสารไปขายของหรือขายธุรกิจอย่างเดียวหรือเปล่า ถ้าท่านไม่ให้คุณค่าอะไรกับเขา แน่ใจว่าเขาจะกลับมาสนใจสิ่งที่ท่านทำ-ท่านส่งเมล์คุยกับเขาหรือเปล่า เช่นจะส่งเมล์หาคุณสายธาร เมล์ท่านจะส่งหาว่า "สวัสดีครับคุณสายธาร " หรือ "สวัสดีครับท่านผู้สนใจ' เพราะคุณกำลังหว่านแหอยู่ใช่ไหม คำพูดที่หวานหูคนที่สุดคือ ชื่อของเขาเอง เมล์ท่านต้องโฟกัสกับเขาเท่านั้น-คุณกำลังส่งเมล์เป็นกลุ่มใหญ่ จะไหวเหรอถ้าไม่มีระบบออโต วันนี้ขี้เกียจไม่ส่งล่ะ คอมเสีย ไฟดับ ทะเลอะกับแฟน อื่นๆละคุณจะทำอย่างไร